<<>> คาริม บูซิดี้ ผู้อำนวยการสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ (ไอบ้า) กล่าวถึงแคมเปญ “เฮดส์อัพ!” ว่าเป็นโครงการที่เน้นศึกษาและรณรงค์ด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้นักมวยได้รับบาดเจ็บสมองกระทบกระเทือน (concussion) จากการแข่งขัน
โครงการนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการเปลี่ยนแปลงกฎครั้งสำคัญของไอบ้าเมื่อปี 2013 ซึ่งยกเลิกการใส่เฮดการ์ดของนักชกระดับประชาชนชาย เนื่องจากผลการศึกษาพบว่าการไม่สวมเฮดการ์ดจะปลอดภัยกับนักมวยมากกว่า เพราะนักชกส่วนใหญ่มองว่าการใส่เครื่องป้องกันศีรษะไว้จึงไม่จำเป็นต้องกลัวอันตราย ทำให้เปิดโอกาสโดนชกที่ศีรษะหรือหัวกระแทกกันมากกว่าเวลาไม่ใส่
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเปลี่ยนกฎใหม่ นักมวยผู้เข้าแข่งขันก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเงยหน้า (Heads Up ตามชื่อโครงการ) ระหว่างชก ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาตะลุยเข้าหากันซึ่งอาจเสี่ยงต่อการศีรษะกระแทกจนเกิดแผลแตกได้
บูซิดี้กล่าวว่า ลีกมวยกึ่งอาชีพ “เวิลด์ ซีรีส์ ออฟ บ๊อกซิ่ง” (WSB) และสถาบันมวยอาชีพ “ไอบ้า โปร บ๊อกซิ่ง” (APB) ต่างก็ใช้กฎไม่สวมเฮดการ์ดมาตั้งแต่ต้น ทำให้นักชกจาก 2 เวทีนี้คุ้นเคยกับกติกาใหม่มากกว่า ขณะที่ขุนพลเสื้อกล้าม หรือนักมวยสากล (สมัครเล่นเดิม) ที่ไม่ได้ชิมลางกับเวทีอื่น อาจต้องใช้เวลาปรับตัวมากกว่า
เนื่องด้วยไอบ้าให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักกีฬามาเป็นอันดับหนึ่ง จึงเดินหน้าโครงการ “เฮดส์อัพ!” อย่างเต็มรูปแบบในการแข่งขันมวยสากลชิงแชมป์โลก “ไอบ้า เวิลด์ บ๊อกซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ” ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเน้นให้ความรู้ความเข้าใจกับโค้ช นักกีฬา และกรรมการ ซึ่งนับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ไม่ปรากฏอาการที่เข้าข่าย concussion แม้แต่ครั้งเดียวตลอดการชก 238 ไฟต์ ขณะที่สถิตินักมวยศีรษะกระแทกกันก็ลดลงด้วย
บูซิดี้กล่าวต่อว่า ขณะนี้ไอบ้ากำลังศึกษาข้อมูลเชิงสถิติของมวยสากลประเภทหญิงและเยาวชนว่าการสวมเฮดการ์ดมีผลต่อปัญหาอาการบาดเจ็บกระทบกระเทือนสมองหรือไม่ และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนกฎยกเลิกเฮดการ์ดในอนาคตเช่นกัน
@ credit news-image -clip : sportclassic / sport.sanook.com
