<<>> จากกรณีมีข่าวทางเว็ปไซต์ สหพันธ์มวยไทยโลก “World Muaythai Federation” หรือ WMF บริหารงานโดย พล.ท.อัครชัย จันทรโตษะ ซึ่งมีสำนักงานขึ้นอยู่กับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา มีแนวคิด ชักจูงรณรงค์ให้ ตัดคำว่า”ไทย”ออกจาก “มวยไทย” และควรยกเลิก การสวมมงคล พิธีไหว้ครู ก่อนทำการแข่งขันบนเวที เพื่อให้มีความเป็นสากลมากขึ้น ทั้งยังอาจเป็นโอกาสต่อการนำเสนอเข้าบรรจุในกีฬาสากลอย่าง โอลิมปิค ได้ง่ายขึ้น

 

ทว่าทันทีที่มีข่าวนี้เผยแพร่ออกไปทั้งทางเว็ปไซต์ “ข่าวสด ไทย ซ้อคเกอร์” และสื่ออื่นๆทั้งทีวี และรายการวิทยุ อาทิ คลื่น FM 100.5 News Network ก่อให้เกิด”ฟีดแบ๊ก”มีกระแสต่อต้านจากบุคคลทั่วไป รวมทั้งบุคคลในวงการมวยมากมาย

 

---------03

 

อาทิ “ครูเป็ด”เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง อดีตนักมวยไทย ถึงกับประกาศว่า หากมวยไทยจะถูกตัดทอน ริดรอน จำกัดแม้เพียงบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสวมมงคล การไหว้ครู หรือห้ามใช้ภาษาไทยในการตัดสิน อันเป็นประเพณีปฏิบัติสืบเนื่องมาช้านาน เราก็ควรยกเลิก หรือถอนตัวจากความหวังในการเสนอเข้าโอลิมปิคไปเลยดีกว่า

 

ขณะที่ นายอำนวย เกษบำรุง นายสนามมวยเวทีรังสิต และประธานมูลนิธินักมวยเก่า ยังออกมาเรียกร้องรณรงค์ให้บุคคลในวงการมวย ทั้งนักมวย ตลอดจนแฟนมวย ไปรวมตัวกันแสดงความไม่พอใจ ต่อแนวคิดดังกล่าว โดยพร้อมเพรียงกันที่ สมาคมมวยไทยสมัครเล่น อาคารที่พักนักกีฬา 200 เตียง การกีฬาแห่งประเทศไทย ในวันจันทร์ที่ 12 ต.ค. เวลา 13.00 น.

 

นายขจร พราวศรี อุปนายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่น และอดีตนักข่าวอาวุโส ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า ก่อนหน้านี้ สมัชชา สหพันธ์กีฬานานาชาติ(สปอร์ต แอคคอร์ต) นั้น ยอมรับ คำว่า “มวยไทย” มานานแล้ว และ คณะกรรมการโอลิมปิคสากล (IOC) เอง ขณะนี้ ก็ยังรับรองใบสมัครขอบรรจุเข้ากีฬาเข้าโอลิมปิค ในนาม “มวยไทย” อยู่ในโต๊ะรับพิจารณา แต่กรณีที่มีข่าวมาจาก WMF (สหพันธ์มวยไทยโลก) ในแนวทางดังกล่าว ถือเป็นการต่อต้าน ทำลายภูมิปัญญาวัฒนธรรมไทยอย่างรุนแรง จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่คนไทยทั่วไป ไม่สามารถจะยอมรับได้

 

EyWwB5WU57MYnKOvj1qsI5nqSgucGVBQMzOf0zCkddoSLXBvHwvhR1-e1425055525827

 

ด้าน นายพูนเพชร เพชรใหม่ คอลัมนิสต์อาวุโส และผู้เชี่ยวชาญเรื่องหมัดมวย นิตยสาร”มวยตู้” กล่าวถึงกรณีนี้ว่า

“จริงๆแล้ว แนวคิดดังกล่าวเคยมีคนเสนอมาแล้ว เมื่อหลายปีก่อน ตัว ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ เองก็เคยเสนอให้ ตัดคำว่า “ไทย” ออกไปจากมวยไทยด้วยซ้ำไป และยังบรรจุกีฬา”มวย”ไว้ในการแข่งขัน “เอเชียน มาร์เชียล อาร์ต” ครั้งที่ 1 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ พร้อมกวาดเหรียญทองไป 5 จาก 9 เหรียญทอง ทั้งนี้ก็ด้วยวัตถุประสงค์เดียวกัน คือต้องการให้นานาชาติ ยอมรับ กีฬามวยไทยเข้าแข่งขันระดับสากล

 

แต่ดังที่ทราบกัน เรากลับถูกเพื่อนบ้านย่านอาเซี่ยนด้วยกันทักท้วงมาตลอด สืบเนื่องจากกีฬามวยไทยจริงๆนั้น ประเทศเพื่อนบ้าน อย่างกัมพูชา ลาว และพม่า ต่างล้วนอ้างว่า มีความเป็นมาแต่โบราณไม่น้อยกว่าเรา”

เจ้าของนามปากกา”โคตรเพชร”ให้ข้อมูลอีกว่า “แต่ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเชื่อว่า เป็นความตั้งใจของดร.ศักดิ์ชายที่ต้องการจะให้ มวยไทย นั้นได้รับการบรรจุเข้าเป็นกีฬาสากล เพื่อจะต่อยอด ให้ง่ายต่อการที่ไอโอซีจะพิจารณาเข้าสู่หนึ่งในชนิดกีฬาของโอลิมปิคสากลในอนาคต แต่ดังที่ทราบกัน

 

ล่าสุดการพิจารณามวยไทยนั้นตกไป นั่นหมายถึงหากจะรอให้มีการพิจารณามวยไทยเข้าอลป.ใหม่อีกครั้ง ก็อาจจะต้องใช้เวลารอนานอย่างน้อย 9-13 ปีเป็นอย่างต่ำเลยทีเดียว”

“ด้วยเหตุนี้ ทาง WMF อาจศึกษาข้อมูลไม่แน่นพอ จึงได้รื้อฟื้นแนวคิดให้ตัด คุณสมบัติของความเป็นมวยไทย บางอย่างออก ขึ้นมาใหม่ พร้อมชวนให้มีการรณรงค์ในเรื่องนี้ เพื่อให้มวยไทยเข้าสู่กีฬาสากลเร็วขึ้น

 

โดยที่ไม่ทันคิดว่า ทางองค์มวยไทยในบ้านเรา ซึ่งบริหารงานโดย ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานสหพันธ์มวยไทย สมัครเล่นนานาชาติ(อิฟม่า) และนายกสมาคมมวยไทย สมัครเล่นนานาชาติ ได้เปลี่ยนแผนใหม่ โดยการติดต่อสายตรงไปยังโอลิมปิคสากล ด้วยการเชิญเจ้าหน้าที่ ไอโอซี. มาร่วมสังเกตการณ์ในงาน ในมหกรรมมวยไทยนานาชาติ “ร้อยดวงใจ ถวายราชสดุดี” หรือ ศึกมวยไทยสมัครเล่นและกึ่งอาชีพนานาชาติ 2015 ที่อาคารนิมิบุตร เมื่อวันที่ 13-23 สิงหาคม ที่ผ่านมา

 

นั่นหมายถึง โอกาสที่มวยไทยจะถูกรื้อฟื้นขึ้นมาพิจารณาใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าหากโชคดี 9 ถึง 13 ปี หรือที่แน่ๆ หากเราเริ่มเดินหน้าตั้งแต่วันนี้ จะต้องใช้เวลารอเห็นผลถึง 17 ปีเป็นอย่างต่ำ”

“ทั้งนี้ ทั้งนั้น เรื่องที่ WMF ออกมาเสนอไอเดียตัดทอนมวยไทย มันจึงเป็นเพียงแค่ ความคิดล้าหลัง และที่สำคัญ องค์กรอย่าง WMF เองก็ยังไม่ได้มี พาวเวอร์ หรืออำนาจใดๆ จะไปชักจูงชาติอื่นๆในแต่ละทวีปทั่วโลกให้มาคล้อยตาม

 

01

 

และสิ่งสำคัญเหนืออื่นใด มวยไทย ปัจจุบันนี้ ได้รับการยอมรับและแพร่หลายไปทั่วโลก ถือเป็นกีฬาที่มีศาสตร์และศิลปในตัวของตัวเอง พิธีการสวมมงคล เป็นการรำลึกถึงครูบาอาจารย์ ตลอดจนการไหว้ครู

ซึ่งแท้จริงแล้วยังมีนัยยะแอบแฝง นั่นคือการ รวบรวมสมาธิ และสำรวจความพร้อมตลอดจนพื้นเวทีการต่อสู้ ระหว่างร่ายรำแม่ไม้มวยไทย เพียงแต่เรายังไม่เคยอธิบายให้ชาวต่างชาติรับรู้กระจ่างชัดมาก่อนเท่านั้นเอง

 

ดังนั้นไอเดียของ WMF จึงเป็นเพียงแค่ แนวคิดเห็นต่างเท่านั้น หากเราไม่ให้สลักความสำคัญอะไร สุดท้ายก็จะถูกกลืนหายไปเองโดยปริยาย” นายพูนเพชร กล่าว

 

new-logox2-e1416876872708

 

@ credit news –image : นินจาดำ-www.springnews.co.thyulgang.asiasoft.co.th

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments