-@@- “เจ้าเติ้ล” มนัส บุญจำนงค์ นักชกประวัติศาสตร์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และเหรียญเงิน โอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน งานเข้าอีกครั้ง เมื่อเกือบถูกด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย จับกุม ในคดีทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นและคดีพัวพันกับยาเสพติด

 

6

 

โดย มนัส บุญจำนงค์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยแฟนสาวและครอบครัวของแฟน ได้เดินทางไปที่ จ.หนองคาย เพื่อเตรียมจะข้ามไปเที่ยวที่ สปป.ลาว แต่ระหว่างการตรวจเอกสารนั้นทางเจ้าหน้าที่ ตม.หนองคาย เดินมาแจ้งว่าตนมีหมายจับจาก สน.สุทธิสาร ในคดีทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น ซึ่งได้ชี้แจงไปว่าเรื่องที่ได้เคลียร์กับคู่กรณีจบไปนานแล้ว ไม่เชื่อให้โทรศัพท์ไปสอบถามที่ สน.สุทธสาร ดูได้ ซึ่งเมื่อทาง ตม.หนองคาย ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก สน.สุทธิสารแล้ว ก็ได้จัดการลบประวัติทิ้งทันที

 

 

แต่ต่อมาตนและแฟนกำลังจะเดินข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว ทางเจ้าหน้าที่ ตม.หนองคาย ก็เรียกตนกลับไปอีกครั้งพร้อมกับแจ้งว่ายังมีหมายจับจาก สน.สุทธิสาร อีกหนึ่งคดี คือ คดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งเรื่องนี้ทำให้รู้สึกตกใจและโมโหมาก จึงได้โวยวายกลับไปพร้อมกับให้ทางตำรวจโทรศัพท์สอบถามไปยัง ผกก.สน.สุทธิสาร อีกครั้ง ซึ่งคำตอบที่ได้กลับมาคือเป็นเรื่องเข้าใจผิด เขาบอกว่าเจ้าหน้าที่เขียนผิด ลงผิดอะไรสักอย่าง ซึ่งตนไม่เข้าใจเรื่องใหญ่แบบนี้จะมาผิดพลาดง่ายๆ และมาพูดแบบนี้ได้อย่างไร หมายจับก็เป็นลายลักษณ์อักษร มีเอกสารยืนยันชัดเจน ซึ่งตนถ่ายสำเนามาด้วย

 

 

 

“ผมสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมามากมาย ที่ผ่านมาอาจจะเกเรหลงผิดไปบ้าง แต่ตอนนี้ก็กลับตัวกลับใจแล้ว ทุกวันนี้ก็มาทำธุรกิจส่วนตัวมีอาชีพสุจริต แต่ชีวิตต้องมาเจอแบบนี้ ถามจริงๆ ถ้าผมไม่ไปต่างประเทศ ผมจะรู้มั๊ยว่ามีหมายจับคดียาเสพติด หรือถ้าเป็นยายสีตาสาที่ไหนเจอแบบนี้ เขาจะทำยังไง ไม่ติดคุกหัวโตเหรอครับ อีกอย่างตอนไปไกล่เกลี่ยคดีทำลายทรัพย์สินที่ สน.สุทธิสาร ทำไมตำรวจไม่แจ้งข้อหานี้กับผม ซึ่งผมถือว่าเป็นข้อหาที่หนักมากเพราะในชีวิตนี้ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยานรกนี่เลย เรื่องนี้ผมไม่รู้จะพึ่งใคร จึงอยากจะขอความเป็นธรรมกับพี่ๆ สื่อมวลชนด้วย” มนัส กล่าว

 

นักชกเหรียญประวัติศาสตร์โอลิมปิกเกมส์ บอกด้วยว่า อาจจะเตรียมดำเนินการฟ้องร้องกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อเรียกศักดิ์ศรีของตนเองกลับคืนมาด้วย แต่ก็ต้องขอปรึกษากับทางทนายความก่อน

 

สำหรับ มนัส บุญจำนงค์ สร้างชื่อเสียงโด่งดังจากการคว้าเหรียญทอง กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และเหรียญเงิน โอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ถือเป็นนักชกประวัติศาสตร์คนแรกของไทยที่ทำได้ โดยปัจจุบัน มนัส ประกอบธุรกิจขายคอนเฟล็กซ์ร่วมกับแฟนสาวอยู่ที่ จ.ลพบุรี

 

manas

 

 

อีกด้านหนึ่ง พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.จว.หนองคาย เปิดเผยถึงเริ่องที่เกิดขึ้นว่า ตำรวจ ตม.มีความเข้มงวดกับการตรวจสอบบุคคลเข้า-ออกผ่านชายแดนมาก ซึ่งเป็นนโยบายของ สตช.และ สตม. โดยจะตรวจสอบบุคคลด้วยระบบออนไลน์ของ สตม. ที่เชื่อมโยงข้อมูลกับ สตม. หากเป็นบุคคลที่มีแบ็กลิสต์หรือมีหมายจับก็จะมีสัญญานเตือนให้รู้ จากนั้นตำรวจก็สามารถเข้าควบคุมตัวได้ทันท่วงที ส่วนในกรณีของ นายมนัส นั้น

 

 

ในช่วงที่เจ้าตัวจะเดินทางข้ามเขตแดนได้มีสัญญาณเตือนแจ้งขึ้นมา ตำรวจจึงเข้าดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งเจ้าตัวก็ตกใจพอสมควร แต่ปรากฏว่าพอตรวจสอบไปยังตำรวจท้องที่ กระทั่งได้รับคำตอบกลับมาว่าเป็นความผิดพลาดในการลงข้อมูล จากนั้นจึงมีการขอโทษขอโพยและอนุญาตให้ นายมนัส เดินทางข้ามฝั่งต่อไปได้ ทาง ตม.หนองคาย ไม่ได้มีเจตนาจะแกล้งผู้บริสุทธิ์ แต่ด้วยข้อมูลที่ระบบแจ้งมาเช่นนั้นจึงจำเป็นต้องดำเนินการ หากไม่ปฏิบัติตามจะโดนผู้บังคับบัญชาลงโทษรุนแรงฐานละเลยในหน้าที่.

 

logo-dailynews-footer-e1418001191747

new-logox2-e1416876872708-2-e1417234758308

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments