-@@- แทรกนิดครับ คุณ ชาคริต ช่วยส่ง หมายเลขธนาคารให้ผมหน่อย นะครับ) เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่งมีเหตุการณ์สำคัญให้แฟนมวยได้ตั้งเป็นหัวข้อการสนทนาครั้งใหญ่อีกครั้ง ในศึก M-150 พลังกำปั้นสะท้านโลก โดยการจัดของนครหลวงโปรโมชั่น ซึ่งครั้งนี้ส่งก้องฟ้า นครหลวงโปรโมชั่น มวยดาวรุ่งพุ่งแรงขึ้นป้องกันแชมป์ย่อยสมทบด้วยการอุ่นกำปั้นของอดีตแชมป์โลกในสังกัด “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ ศ.รุ่งวิสัย
การจัดมวยระดับแชมป์ย่อยของบ้านเราไม่ได้มีอะไรผิดแปลกไปจากที่เคยเป็น เวทีมวยชั่วคราว พิธีการยาวเหยียดยามบ่าย เป็นสิ่งคุ้นตาแฟนมวยชาวไทยมาช้านาน แต่สิ่งที่ไม่ปกติครั้งนี้ก็เกิดขึ้นจนได้ ถึงแม้แฟนมวยทั่วไปอาจจะไม่ทราบ แต่แฟนมวยยุคไซเบอร์อย่างกระผม และอีกหลายๆคนต่างทราบความผิดปกตินั้นดี
“มาดิท ซาด้า” คู่อุ่นหมัดของ “เจ้าแหลม” นี่เองที่เป็นสิ่งผิดปกติในครั้งนี้!!
เอ? ไหนตามข่าวว่าจะเป็นอินโดจอมทรหด “แซมมี่ แฮกเลอร์” เจ้าเก่าเจ้าประจำที่เดินทางมาถึงเมืองไทยแล้วก็โม้ทันทีว่า ถ้า”เจ้าแหลม” น็อคตรูได้ ตรูไม่เอาค่าตัวเฟ้ย รายนั้นไง ทำไมกลายเป็นไอ้หมอนี่ไปได้ล่ะ
ไม่มีเสียงอธิบายใดๆจากทีมงานนักพากย์นามอุโฆษของเมืองไทย “มาดิท ซาดา” นักมวยรุ่น 105 ปอนด์ จากอินโดนีเซียขึ้นเวทีทำหน้าที่มวยเดินสายของเขาต่อไป และก็ทนพิษกำปั้นของอดีตแชมป์โลกกำปั้นหนักชาวไทยได้เพียง 2 ยกกว่าๆ ก็นอนไปตามสเต็ปมวยอินโดเดินสาย (จริงๆผมคิดว่าถ้าเอาจริงแต่แรก มวยระดับศรีสะเกษใช้เวลาซักครึ่งนาทีก็สะกดไอ้หมอนี่กองพื้นเวทีแล้วแหละ)
หืม? มวยอินโดมันก็ต่อยได้ตั้งแต่ 105-120 ปอนด์นู่นแหละ วันนี้มาต่อยเกือบๆ 120 ปอนด์ มันแปลกตรงไหน เขียนมั่วตั้ว ไม่เห็นแปลกเลย โถ่ๆๆ
ผู้อ่านบางท่านอาจจะคิดแบบนี้ใช่มั้ยครับ จริงๆนักมวยคนนึงต่อยได้ 5-6 รุ่นแบบขึ้นๆลงๆ (ไม่ใช่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆแบบที่มืออาชีพเขาทำกัน) มันก็เป็นเรื่องแปลกแล้วนะ ถึงแม้ว่ายามนี้แฟนมวยชาวไทยจะชาชินและคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วก็เถอะ แต่ถ้าผมบอกว่า เจ้า “มาดิท ซาด้า” มันชก 2 รุ่นที่น้ำหนักต่างกันตั้งเกือบ 10 ปอนด์ โดยได้พักแค่วันเดียวล่ะ แปลกและมหัศจรรย์พอหรือยัง?
18 มีนาคม 2558 แพ้น็อค เพชรมณี ก่อเกียรติยิม (นักชกรุ่นไลท์ฟลายเวท 108 ปอนด์) ยก 3
20 มีนาคม 2558 แพ้น็อค ศรีสะเกษ ศ.รุ่งวิสัย (อดีตแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท 115 ปอนด์) ยก 3
ผมหาข้อมูลไม่เจอว่าวันนั้น “เจ้าแหลม” ชกอุ่นเครื่องในพิกัดเท่าไหร่ แต่คิดว่าคงใกล้ๆ 120 ปอนด์เป็นแน่แท้ ยิ่งการันตีความยอดเยี่ยมและสุดมหัศจรรย์ของ “มาดิท ซาด้า” นักชกอิเหนารายนี้ได้เป็นอย่างดี
วันนี้ผมลองๆหาข้อมูลนักมวยประเภทนี้ กล่าวคือชกได้ทุกน้ำหนัก ทุกที่ ทุกเวลา ตามคำบัญชา ซึ่งอาจจะไม่ครบทั้งหมดแต่เมื่อรวมกับเจ้าซาด้า รายนี้ก็รวมเป็น 4 รายพอดี เลยตั้งชื่อแก๊งค์เท่ๆ “4 สิงห์ อึดทะลุโลก” ให้ซะเลย จะมีใครบ้างเชิญติดตามได้เลย รับรองรู้จักทุกคน
อันดับ 4 ซามูเอล “แฮกเลอร์” เตฮูอาโย่
เหลือบเห็นชื่อก็ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ นักมวยจอมอึดจากอินโดนีเซียรายนี้ โชว์ความแข็งแกร่งเบาะๆ ด้วยการขึ้นชิงแชมป์อินโดนีเซียรุ่นฟลายเวท 112 ปอนด์ กับ คิ ชาง คิม นักชกเลือดอิเหนาด้วยกันในวันที่ 7 กันยายน 2557 โดยตกเป็นฝ่ายแพ้คะแนนกำหนด 12 ยกไปอย่างฉิวเฉียด หลังจากพัก 4 วัน 12 กันยายน ปีเดียวกัน พี่แกเดินทางมาเมืองไทยอุ่นเครื่องกับ ปิ๊กมี่ ก่อเกียรติยิม ในพิกัด 105 ปอนด์ทันที นี่น้ำหนักหรือโยโย่ อะไรจะขึ้นลงได้ง่ายดายขนาดนั้น แถมวันที่ 23 เดือนเดียวกัน พี่แกโชว์ความแข็งแกร่งขึ้นตะบันกับ สแตมป์ กระทิงแดงยิม ดาวรุ่งจากแกแล็คซี่ โปรโมชั่น ชิงแชมป์พาบา 112 ปอนด์อีก 12 ยกรวด โคตรมหาอึดจริงๆ
อันดับ 3 แจ็ค อมิซ่า
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งนักชกเจ้าประจำเช่นเดียวกัน มาเมืองไทยเป็นว่าเล่น แฟนมวยก็ชอบเพราะมาทีไร ลีลา ท่าทางบนเวทีนั้น ช่างมีเสน่ห์เหลือร้าย ตึงตาตรึงใจแฟนมวยเหลือเกิน หมอนี่เองก็มีฉากโชว์ความอึดเช่นเดียวกัน โดยเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ปี 2551 เขาเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายังประเทศไทย เพื่อเป็นคู่ต่อสู้ให้กับ วิษณุ ก่อเกียรติยิม โดยผลการชกเขางอแง ขี้เกียจออกจากมุมในยกที่ 4 เลยเป็นฝ่ายแพ้แบบไม่ครบยกไปเสีย แต่จริงๆแล้ว แจ็ค อมิซ่า อาจจะรีบกลับอินโดนีเซียก็เป็นได้ เพราะเขามีเวลาพักแค่ 2 วันเท่านั้นเอง วันที่ 26 พฤษภาคม ต่อมา แจ็ค อมิซ่าก็ขึ้นสังเวียนอีกครั้ง เอาชนะคะแนน แบล็ค ราติซต้า นักชกเพื่อนร่วมชาติในพิกัด 8 ยกไปชิวๆ
อันดับ 2 มาดิท ซาด้า
ชายผู้เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องนี้นั่นเอง ด้วยวีรกรรมดังที่กล่าวมาข้างต้น ชกกับ 2 นักชกชื่อดังของไทย โดยพักแค่วันเดียวแถมแบกน้ำหนักนับ 10 ปอนด์ ถึงจะแพ้น็อครวด แต่พี่จะอยูในความทรงจำของแฟนมวยชาวไทยไปอีกนานแสนนานแน่ครับ
อันดับที่ 1 ซอฟวัน ลอมบอค
หัวหน้าแก๊งค์ 4 สิงห์อึดทะลุโลก ผู้กระชากหัวใจโปรโมชั่นยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยได้ทุกโปร ด้วยสถิติสุดหรู ชนะ 1 แพ้ 27 ด้วยสถิติสุดแย่ของเขา อาจจะทำให้แฟนๆมวยคิดเอาเองว่าเขาไม่เก่ง แต่ถ้าจะบอกว่าหมอนี่ไม่อึด คุณคิดผิดแล้ว ซอฟวัน ลอมบอค สร้างสถิติใหม่ที่ไม่น่าจะมีใครทำมาก่อนแค่ 2 ไฟต์แรกที่เขาขึ้นชกเท่านั้นเอง เด็กหนุ่มผู้ห้าวหาญเยี่ยงเขา ขึ้นชกครั้งแรกในชีวิตเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2550 ถึงแม้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้โดยคะแนนในกำหนด 8 ยก ให้กับ ร็อบบี้ บอย นักชกเพื่อนร่วมชาติก็ตาม แต่ด้วยหัวใจอันทรนงของเขา บวกกับไฟอันแรงกล้าในหัวใจ ลอมบอค ขึ้นชกในวันถัดมาทันที และก็แพ้คะแนน 8 ยกต่อ ริกกี้ มานูโฟเอ้ไปอีกครั้ง แต่อย่างน้อยเขาก็ได้สร้างตำนานบทใหม่ให้กับตนเอง ด้วยการขึ้นชกโดยไม่ต้องการหยุดพักเลยนั่นเอง
“อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการได้เป็นสมาชิก แก็งค์อึด ทะลุโลก จะเป็นเครื่องการันตีความแข็งแกร่งของร่างกายและหัวใจของนักมวย แต่อีกนัยหนึ่ง กีฬามวยเป็นกีฬาที่มีความอันตรายสูงในระดับหนึ่ง สมาคมมวยของประเทศต่างๆได้มีกฎระเบียบบังคับอย่างชัดเจน หากแต่พวกเรา 4 คน ถือได้ว่าเป็นนักมวยที่มีความพิเศษเหนือผู้ใด พวกเราหวังว่าจะไม่มีนักมวยคนใดเอาเยี่ยงอย่าง เราขอปิดรับสมาชิก ณ บัดนี้“
ลงชื่อ ซอฟวัน ลอมบอค หัวหน้าแก็งค์ 4 สิงห์ อึดทะลุโลก
ขอบคุณข้อมูลจาก boxrec.com
หมายเหตุ : บางข้อความแต่งเติมเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาหลบหลู่หรือทำให้ใครเสียหายแต่อย่างใด
