<<>> จากเหตุการณ์ดราม่าที่ อำนาจ รื่นเริง อดีตแชมป์โลก IBF ชาวไทย มีคลิปเมาขาดสติจนทะเลาะวิวาทกับวัยรุ่นหน้าร้านสะดวกซื้อ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคม และสร้างความใจหายให้กับแฟนกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ที่เรียกร้องให้ภาครัฐเข้าช่วยเหลือในการบำบัดรักษาอดีตฮีโร่รายนี้

 

ย้อนกลับไปในอดีต อำนาจ รื่นเริง ที่เริ่มต้นจากมวยไทยในชื่อ “เพชร ต.บางแสน” หรือ “เพชร ป.บูรพา” ได้สร้างผลงานที่โดดเด่นและน่าจดจำไว้มากมาย ทั้งในสังเวียนสมัครเล่นและอาชีพ สยามสปอร์ต จึงขอพาแฟนกีฬาทุกท่านไปหวนรำลึกถึง 5 ไฟต์แห่งความทรงจำของ อำนาจ รื่นเริง:

 

1. คว้าเหรียญทองแดง ชิงแชมป์โลก 2007 (ชิคาโก, สหรัฐอเมริกา)

ย้อนไปในศึกมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก 2007 ที่นครชิคาโก อำนาจ รื่นเริง เป็นที่จับตามองอย่างมาก เนื่องจากเพิ่งออกจากทัณฑสถานจากคดีวิ่งราว แต่สามารถติดทีมชาติได้ด้วยผลงานคว้าเหรียญทองกีฬาราชทัณฑ์ 2 ปีซ้อน

ไฟต์ชี้ชะตา: ในรอบ 8 คนสุดท้าย รุ่นไลท์ฟลายเวต (48 กก.) อำนาจพบกับ โฮวานเนส ดาเนียลยาน จากอาร์เมเนีย และเป็นฝ่ายออกหมัดเข้าเป้ามากกว่า เอาชนะไป 18-6 คะแนน การันตีเหรียญทองแดงทันที

 

 

การคว้าเหรียญครั้งนี้ทำให้เขาสามารถ เปลี่ยนสถานะจากอดีตผู้ต้องขัง มาเป็นนักชกทีมชาติไทยอย่างเต็มตัว แม้รอบรองชนะเลิศจะพ่ายต่อ แฮร์รี่ ทานามอร์ จากฟิลิปปินส์ก็ตาม

2. คว้าเหรียญทองแดง เอเชียนเกมส์ 2010 (กวางโจว, จีน)

แม้จะพลาดเหรียญในโอลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่ง แต่ในศึกเอเชียนเกมส์ 2010 ที่กวางโจว อำนาจทำผลงานได้ยอดเยี่ยม โดยผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ

รอบรองฯ: โคจรมาพบกับตัวเต็งอย่าง โจว ซื่อ หมิง จากจีน ดีกรีเหรียญทองโอลิมปิก 2008 ก่อนจะพ่ายไป 2-5 คะแนน

การคว้าเหรียญทองแดงในครั้งนี้ นับเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมท่ามกลางปัญหาทางการเมืองที่ทำให้ นักชกไทยในเวลานั้นต่อยแล้วแต้มขึ้นยากมาก เนื่องจากผู้บริหารสมาคมมวยสากลสมัครเล่นฯ ของไทยมีปัญหากับสหพันธ์ไอบา

3. คว้าแชมป์โลกสถาบันหลัก IBF (2014)

หลังอำลาทีมชาติ อำนาจได้ก้าวสู่การชกมวยสากลอาชีพ และใช้เวลาเพียง 8 ไฟต์ในการคว้าเข็มขัดแชมป์ IBF เอเชีย รุ่นฟลายเวต (112 ปอนด์)

 

 

ไฟต์ประวัติศาสตร์: ในไฟต์ที่ 12 อำนาจได้โอกาสชิงแชมป์ สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ซึ่งเป็น 1 ใน 4 สถาบันหลัก โดยดวลกำปั้นกับ ร็อกกี้ ฟูเอนเตส จากฟิลิปปินส์ ที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2014 ก่อนจะ เอาชนะคะแนนไปอย่างเป็นเอกฉันท์ และคว้าแชมป์โลกสถาบันหลักมาครองได้สำเร็จ

ความสำเร็จนี้ยังทำให้เขาได้รับการยกย่องจากที่ประชุม IBF ให้เป็น นักมวยยอดเยี่ยมของทวีปเอเชีย อีกด้วย

4. สอนมวย คัตสึโตะ อิโอกะ ดาวรุ่งญี่ปุ่น (2014)

หลังจากคว้าแชมป์ IBF อำนาจต้องไปป้องกันตำแหน่งที่ญี่ปุ่นกับ คัตสึโตะ อิโอกะ ดาวรุ่งพุ่งแรงและอดีตแชมป์ WBA รุ่นไลท์ฟลายเวท ซึ่งมีสถิติชนะรวด 14 ไฟต์ การชกมีขึ้นที่โอซาก้า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2014

สยบดาวรุ่ง: แม้เซียนมวยจะมองว่าอำนาจมีโอกาสเสียแชมป์ แต่ตลอด 12 ยก กำปั้นชาวเมืองชลอาศัยจังหวะฝีมือ ถอยดักชกจน อิโอกะ ไปไม่เป็น และเอาชนะคะแนนไปอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 2-1 เสียง (กรรมการที่ให้ อิโอกะ ชนะถูกวิจารณ์อย่างหนัก)

5. ล้างแค้น โจว ซื่อ หมิง บนเวทีอาชีพ (2015)

อำนาจได้โอกาสป้องกันตำแหน่งแชมป์ IBF กับ โจว ซื่อ หมิง ฮีโร่กำปั้นชาวจีน ดีกรีเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย ที่มาเก๊า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2015

 

 

เดิมพันและสตอรี่: ไฟต์นี้มีความสำคัญเนื่องจากเป็นการเผชิญหน้ากันอีกครั้งบนเวทีอาชีพ หลังอำนาจมักเป็นฝ่ายแพ้ในมวยสมัครเล่น และเจ้าหมิงก็เป็นคู่ปรับที่เคยเอาชนะ แก้ว พงษ์ประยูร ของไทยไปอย่างค้านสายตาในโอลิมปิก 2012

การล้างแค้น: แม้จะพลาดร่วงให้กรรมการนับ 8 ในยกที่ 2 แต่ช่วงเวลาที่เหลือ อำนาจ ดักชกต้อน โจ ซื่อ หมิง แทบจะฝ่ายเดียว จนเอาชนะคะแนนไปอย่างเป็นเอกฉันท์ และดับฝัน โจ ซื่อ หมิง ที่จะก้าวขึ้นครองเข็มขัดแชมป์โลกสถาบันหลักในเวลานั้น..

 

                 news  Photo Credit :: www.siamsport.co.th

YouTube Ch. KOM THAIREC

*คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าวเว็บ boxingboy2021.blogspot.com