ผลการชกมวยคู่บิ๊กไฟต์ของเอเชีย ระหว่าง อำนาจ เกษตรพัฒนา กับ อดีตเหรียญทองโอลิมปิค 2 สมัย โจว ซื่อ หมิง จบลงไปแบบเหนือความคาดหมายของแฟนๆมวยทั่วโลกเล็กน้อย เมื่อปรากฎผลคะแนนอันบริสุทธิ์ยุติธรรม แชมป์โลกชาวไทยเอาชนะคะแนนไปได้ค่อนข้างขาดลอย ทั้งๆที่โดนนับไปในช่วงยกที่ 2
สำหรับความคืบหน้า รายละเอียดการชกรวมถึงควันหลงต่างๆของไฟต์นี้ ได้ถูกนำเสนอผ่านช่องทางต่างๆ สื่อหลายสำนักมีการทำสกู๊ปยกย่องอำนาจกันครึกโครม ทั้งๆที่ช่วง 10 ปีหลัง เรื่องแบบนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นในวงการมวยสากลของไทย กระทั่งบรรดาเพื่อนฝูงผู้เขียนที่แทบไม่เคยดูมวยมาก่อน ยังพากันโพสต์เฟซบุคแสดงความดีใจ สะใจกันถ้วนหน้า นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่อาจจะทำให้มวยสากลในบ้านเรากลับมาบูมอีกครั้ง หลังผ่านยุคของเขาทราย วีรพล หรือพงษ์ศักดิ์เล็ก
ส่วนหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่ทำให้แฟนๆชาวไทยสนใจไฟต์นี้มากๆ ก็มาจากการที่ โจว เอาชนะแก้ว พงศ์ประยูรนักชกไทยเราในรอบชิงเหรียญทองโอลิมปิคที่ลอนดอน แบบค้านสายตาแฟนมวยชาวไทย ยังผลให้เกิดความหมั่นไส้นักชกชาวจีนรายนี้นั่นเอง
จริงๆแล้วหากมองกันด้วยความเป็นกลาง ถึงแม้ว่าแก้ว พงศ์ประยูร จะดูดีกว่าเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้ขาดหลุดลุ่ยชนิดที่เรียกว่าไล่ต้อนตืออยู่ข้างเดียวเสียเมื่อไหร่ โจว ซื่อ หมิงเองก็มีจังหวะทำแต้มสวยๆใส่แก้ว เช่นเดียวกัน
ผมเขียนบทความนี้ไม่ได้ต้องการพายเรือสวนกระแสน้ำเชี่ยว เขียนเชียร์เฮียโจวในยามที่คนทั้งประเทศชื่นชมอำนาจแต่อย่างใด แต่อยากหยิบยกเอาประเด็นเล็กๆ เรื่องน้ำใจนักกีฬาขึ้นมากล่าวอ้างสักเล็กน้อย เพราะในยามที่ไฟต์ อำนาจ – โจว ซื่อ หมิงจบลง แฟนมวยชาวจีนอาจมีบ้างตามนิสัยเกรียนคีย์บอร์ดที่ตามกัดตามแขวะหาว่าอำนาจซื้อกรรมการบ้าง ต่อยมวยน่าเบื่อบ้าง แต่แฟนมวยส่วนใหญ่เขาก็ยอมรับว่า โจว ซื่อ หมิง ชกไม่ดี ว่ายน้ำเอาหัวพุ่งชน แถมมีไม่น้อยที่ด่าทอ อดีตฮีโร่ เหรียญทองโอลิมปิคเสียๆหายๆด้วยซ้ำ รวมถึงแฟนมวยในสังเวียนโคไท อารีน่า ที่พากันมาขอถ่ายรูปกับแชมป์โลกชาวไทยด้วยใจยอมรับในความเก่งกาจอีกต่างหาก
ด้านตัวนักมวยเอง หลังจากเกมส์จบ โจว ซื่อ หมิง ก็ไม่ได้ลังเลใจที่จะเข้ามายินดีปรีดากับอำนาจ หลังการประกาศคะแนน รวมถึงการแถลงข่าวของ Top Rank เฮียโจวก็ไม่ได้ลืมที่จะแสดงความยินดีกับอำนาจอีกครั้ง
“คืนนี้มันเป็นคืนที่ผมต้องเสียใจที่สุดจริงๆ แต่อย่างไรก็ตามผมต้องขอแสดงความยินดีกับอำนาจด้วย เขาชกได้ดีมากๆ”
ทางด้านเฟรดดี้ โร้ช ก็ขึ้นแถลงข่าวโดยกล่าวชมอำนาจเช่นกัน ทั้งๆที่ก่อนไฟต์จะเริ่มหากยังจำกันได้ ตาเฟรดดี้ โร้ชนี่แหละ ที่แสดงความมั่นใจมากกว่าเพื่อน ว่ายังไงเข็มขัดก็ต้องเปลี่ยนมาอยู่เมืองจีน
“เขา (อำนาจ) ว่องไวและรวดเร็วมาก เขาเคลื่อนที่ได้ดี และชกเกมส์รับได้สุดยอด แถมยังเป็นคนที่สร้างความอึดอัดให้คู่ชกสุดๆ โจวได้ประสบการณ์ที่ดี เขาจะพัฒนากลายเป็นนักชกที่ครบเครื่องขึ้น เราจะกลับไปที่ยิม และซ้อมให้หนักกว่าเดิม”
ในการแข่งขัน น้ำใจนักกีฬาเป็นสิ่งที่สำคัญ คนไทยเราเองก็มีคำกล่าวคลาสสิคคำหนึ่ง “รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย” เช่นเดียวกับการแข่งขัน ซุปเปอร์ไฟต์ ที่เพิ่งผ่านพ้นไป นักกีฬาและทีมงาน ต่างก็ทำหน้าที่ของตนอย่างสุดความสามารถ และแสดงความมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย กันอยางยอดเยี่ยมเช่นกัน เหลือก็แต่แฟนๆมวย ที่จะแสดงความดีใจ ความสะใจ อันจะอยู่ในขอบเขตความมีน้ำใจนักกีฬาแค่ไหนเท่านั้นเอง
(โจว ซื่อ หมิง “เดอะ เจนเทิลแมน” หรือมีความเป็นสุภาพบุรุษ ผมคัดลอกคำนี้มาจาก ทวิตเตอร์ของ TOP RANK ที่ทวิตภายหลังการแถลงข่าวหลังเกมส์การชกจบลง)
