-@@- ยิ่งไกล้ ยิ่งร้อน..นานปีทีหนจะมีใหม ที่นักชกขุนพลไทยจะได้มีโอกาส สัมผัสกับเกมยิ่งใหญ่ระดับโลก โดยทีมงานมื้ออาชีพนำเบอร์วัน แถมมิ้อนี้ เราเป็นตัวเอกชูโรง นำรายการเสียด้วย ยิ่งตอนนี้ไม่น่าแปลกเลยที่สายตาแฟนมวยทั้งประเทศกำลังจับจ้อง มองตาดูแบบไม่กระพริบ เพราะอยากรู้ว่า ได้หนุ่มฝรั่ง สายเลือดไทยเข้มจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ไทยแลนด์ แดนสยามได้หรือไม่ อีกไม่กี่ชัวโมงต่อไปนี้..รู้กัน…น่าติดตาม..
3 มี.ค. เวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชม. อำนาจ ได้รับเชิญจากทางโรงแรมเวเนเชียน สถานที่ชก ให้ไปร่วมงานโชว์ตัวภายในโรงแรม ปรากฏมีเจ้าหน้าที่พนักงาน ตลอดจนนักท่องเที่ยวผู้มาใช้บริการมากมายหลายร้อยคนปรบมือให้การต้อนรับพร้อมขอร่วมถ่ายรูปกับแชมป์โลกชาวไทย ทั้งมีการแจกลายเซ็นให้กับแฟนๆชาวจีน กินเวลาราวหนึ่งชั่วโมง จากนั้นทาง ท็อปแร็งค์ ผู้จัดศึกครั้งนี้ ได้เชิญ อำนาจ และ “จิมมี่”ดร.เอกรัตน์ ไชยโชติช่วง เข้าห้องสตูดิโอเพื่อสัมภาษณ์และบันทึกเทป
โดยมี จอห์น กิ๊บบอน ผู้ประสานงานของท็อปแร็งค์ และ คริสติน่า พอนเชอร์ พิธีกรสาวคนดัง สัมภาษณ์ความมั่นใจ รวมทั้งสอบถามชีวประวัติคร่าวๆ ตลอดจนสาเหตุที่อำนาจเคยต้องโทษติดคุกมาก่อน ซึ่งแชมป์โลกชาวไทยอธิบายสาเหตุ ว่าเป็นเพราะตน ถูกตัดขาดจากหัวหน้าคณะมวยไทยในยุคนั้น ทำให้ไม่สามารถจะขึ้นชกมวยหาเลี้ยงชีพได้อีก ด้วยสถานภาพยากจน สุดท้ายจึงได้คิดสั้นด้วยการวิ่งราวกระชากสร้อย ก่อนเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างจำคุกได้ใช้การชกมวยไต่เต้า
จนติดทีมชาติ และกลายมาเป็นแชมป์โลกมวยอาชีพเมื่อพ้นโทษในเวลาต่อมา ทำเอาพิธีกรสาวคนดังของท็อปแร็งค์ ถึงกับอุทานด้วยความน่าทึ่งเมื่อได้ทราบประวัติจากปากของอำนาจ ผ่านการแปลของ จิมมี่ ผู้จัดการเลยทีเดียว
จากนั้นหลังเสร็จสิ้นการบันทึกเทป อำนาจได้เดินทางจากเกาะฝั่งไทปาอันเป็นที่พัก ข้ามทะเลไปซ้อม ที่ค่ายมวย “ฟู ไว ยิม”บนเกาะใหญ่ของฝั่งมาเก๊า โดยมี “อาหง่าว” จิว ซินฮง เจ้าพ่อคนดัง เป็นเจ้าของสถานที่ โดยตัวของ”อาหง่าว”ซึ่งถือเป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่ เดินทางมารับอำนาจและคณะพร้อมสื่อมวลชนไทยด้วยตัวเอง เวลาประมาณ 15.00 น. อำนาจ และ ปฐมศึก เดินทางมาถึงและเริ่มซ้อมด้วยการวอร์มโดดเชือก 30 นาที
ต่อด้วยการล่อเป้าลงนวมกับ อัลโจ้ และ ฟรานซิสโก้ จาโร่ สองพี่น้องเทรนเนอร์ชาวฟิลิปปินส์ อีก 30 นาที จากนั้นเดินทางกลับที่พัก และทดสอบน้ำหนักตัวเกินพิกัด 112 ปอนด์ เพียงแค่ 1 ปอนด์เท่านั้น
ด้าน”อาหง่าว” จิว ซินฮง ผู้คลุกคลีกับมวยไทย เป็นเจ้าของโรงยิมมวยไทย และมีนักมวยในสังกัดเป็นนักมวยไทยรวมทั้ง สันติภาพ ศิษย์อุ๊อุบล แชมป์ WBC muaythai รุ่นซูเปอร์ไลต์เวต เปิดใจว่า ศึกมวยโลกไฟต์นี้กระแสความสนใจของแฟนมวยชาวจีนที่นี่สนใจกันมาก ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า หมิงจะเป็นผู้ชนะ แต่ตนเห็นความแข็งแกร่งของอำนาจที่ผ่านการชกอาชีพมามากกว่า เชื่อว่ามวยคู่นี้ จะออกมาสูสีคู่คี่กัน
ขณะที่ สันติภาพ แชมป์มวยไทย ซึ่งมาทำงานและสอนมวยอยู่ที่มาเก๊า 2 ปีครึ่ง เผยให้ทราบว่า เมื่อสิบกว่าปีก่อน ตนเคยชกมวยไทยกับ อำนาจ มาแล้วที่เวทีมวยภูธร จ.อุบลราชธานี ครั้งนั้น ตนสามารถเอาชนะอำนาจ ซึ่งยอมแพ้เดินลงจากเวทีไปเพียงแค่ยกที่สองเท่านั้น ครั้งนี้ได้มาเจอเพื่อนเก่าที่เคยชกกันมารู้สึกดีใจ และอยากฝากย้ำไปยังอำนาจว่า การมาชกในบ้านเขา เราย่อมเสียเปรียบ ถ้าจะชนะก็จะต้องเอาชนะน็อกให้ได้สถานเดียว
@ credit clip – น้องเอก และทีมงาน ไทยรัฐ ทีวี..-www.khaosod.co.th–www.dailynews.co.th
