<<>> จบลงไปแล้ว แบบจืดๆ ไม่ซาบซ่าสักเท่าไหร่ เพราะทั้งคู่ ยังคงชกกันในสไตล์เดิมๆ ไม่มีนับน็อก หล่นให้เห็น หนักพอกันเลย.. แต่ในภาพรวมไฟต์นี้ น่าจะปิดปากดราม่าข้ามโลกของชาวภารตะได้สนิท กว่าครั้งก่อนแน่ เพราะผลงานของเจ้า วันละมูเอีย ไม่สามารถเค้นฟอร์มอันน่ากลัวออกมาข่มแสงอาทิตย์ได้เลย ต่างกว่าครั้งก่อนที่ดูจะวูบวาบมากกว่า แต่ต้องยอมรับว่าเรี่ยวแรงของอาบังเขาไม่มีตกจริง จะมีก็แต่แค่ความแม่นยำเท่านั่นที่ขาดไป
ส่วนเจ้าแสงอาทิตย์ แผนการชกจำต้องออกมาในทรงนี้ เพราะคู่ชกทุบไม่ร่อน ยิ่งทุบเหมือนยิ่งกระจาย สไตล์บู้แบบกัดไม่ปล่อยจำต้องมีแอบกอดอยู่นิดๆ เขาทนหมัดเราได้ แต่ของเขาไม่แน่ เลยไม่มีเสี่ยง แฟนมวยสไตล์ชาดิส อดได้ซี้ดปากเลย เมื่อการชก จบยก ครบเซต 99-91 / 99-91 / 98-92 ขาด
ส่วนเกมบนเวที เริ่มยกแรกต่างคนต่างระวัง โดยเราเริ่มก่อนยื่นลูกแย็บทักทาย ส่วนเจ้ามูเอีย โยกหัวซ้าย-ขวา หลบหลีก ยังไม่ออกอะไรมาก ขึ้นยก2-3 มูเอียขยับเข้าบ้างแต่เจอกับลูกแย็บสกัดเล่นเสียจังหวะ พร้อมกับหมัดที่ออกสวิงเน้นเป้าที่ลำตัวหนัก สลับใบหน้า แต่ก็เจอเข้ากับการชิงเปิดก่อนเช่นกันอย่างน่ากลัว ขึ้นยก4 มูเอียขยันขยับจับทางเรา แต่ไม่ทันเจอแย็บบ่อย ต้องเข้าไปแลกสู้วงใน ทั้งคู่แลกหมัดแบบไม่กลัวหล่น โดนจังทั้ง2ฝ่ายแต่ทนได้
ผ่านครึ่งทาง ทีมภารตะสั่งมูเอียเดินเครื่องเต็มสูบ ไม่งั้นแพ้แน่ ส่วนของเรา เมื่อเอาไม่ลง จำต้องเปลี่ยนมาเป็นเล่นเชิง ปล่อยให้มูเอียบ้าเลือดอยู่คนเดียว จิกเล็กจิกใหญ่ใส่คะแนนแทบไม่ทัน มูเอียดูจะลนลาน เดินใส่แต่โดนดักน่าหงาย โดนท้องตัวงอ เข้าไม่ติด ช่วงท้ายแสงอาทิตย์เปลี่ยนจากมวยไฟต์เตอร์กลายเป็นบ็อกเซอร์ไปเสียเลย 55 จบยกครบเซต แต่ต้องทำใจ เพราะฝีมือมันทันกัน ไม่หล่น ไม่น็อก แต่ก็ชนะใสๆได้เหมือนกัน นะจ๊ะ..เยี่ยม..
