<<>> ในฐานะนักมวยที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นของสายอาชีพ นี่คงเป็นหนึ่งในประโยคที่ไม่มีนักมวยคนใดอยากได้ยิน
แต่นั่นเป็นสิ่งที่แดเนียล จาคอปส์ ไม่อาจปฏิเสธความเป็นจริงในขณะนั้น
ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2011 แดเนียล จาคอปส์ถือเป็นนักมวยที่น่าจับตามองในพิกัดมิดเดิ้ลเวท อดีตนักมวยสมัครเล่นทีมชาติสหรัฐอเมริกามีสถิติชนะรวด 20 ไฟต์ในช่วงแรก ก่อนที่จะแพ้น็อคให้แก่ ดิมิทรี่ ปิร็อค ในไฟต์ชิงแชมป์โลกของ WBO ซึ่งเป็นการชิงเข็มขัดโลกครั้งแรกของเขา
 
 
 
 
อย่างไรก็ตามนักมวยที่เติบโตและฝึกฝนมวยในย่านบุร๊คลิน กลับมาชนะอีก 2 ไฟต์หลังจากนั้น ก่อนสัญญาณอันตรายจะมาเยือน
จาคอปส์รู้สึกเจ็บที่บริเวณขา เป็นอาการเจ็บที่ทำให้เขาต้องเข้ารับการตรวจโดยแพทย์อย่างจริงจัง
ผลการตรวจระบุว่า จาคอปส์เป็นมะเร็งกระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นชนิดที่พบยากมากชนิดหนึ่ง
 
 
“คุณจะไม่ได้ชกมวยอีกแล้ว”
“มะเร็งร้ายสามารถคร่าชีวิตคุณได้”
คือคำกล่าวจากแพทย์ผู้รักษา ซึ่งคงไม่ต้องบรรยายความรู้สึกของนักมวยหนุ่มในขณะนั้น
“มันเป็นความยากลำบากเหลือคณา ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การทำอะไรที่เคยทำ มันเจ็บปวดทรมาณไปหมด เวลาที่ผมเจ็บ เวลาที่ผมร้องไห้ ในห้วงเวลาที่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้งหรือไม่ แต่เชื่อมั้ยว่าในความรู้สึกของผมยังคิดถึงการชกมวยตลอดเวลา”
 
 
 
 
แดเนียล จาคอปส์ ใช้ความความพยายามอย่างหนักในการรักษาทุกวิถีทางที่เขาพึงกระทำ เขาเข้ารับการฉายแสงนับสิบครั้ง ประกอปกับการทำกายภาพบำบัดตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด
ใครจะเชื่อว่า 19 เดือนหลังจากนั้น แดเนียล จาคอปส์จะกลับไปยืนบนเวทีมวยอาชีพด้วยการชนะน็อคคู่ต่อสู้ในยกที่ 1
ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดผ่านพ้นไป เขารักษาตัวและค่อยๆแข็งแกร่งขึ้น เขาเริ่มเดิน เขาเริ่มวิ่ง เขากลับมาชกมวยอีกครั้ง และสามารถคว้าแชมป์โลก WBA มาครองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทำไม่ได้ก่อนตรวจพบมะเร็งด้วยซ้ำ
 
 
                              izquierdazo.com
 
 
ไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนจะเรียกเขาว่า ‘มิราเคิล แมน’ หรือบุรุษแห่งปาฏิหาริย์
ปัจจุบัน แดเนียล จาคอปส์ มีสถิติการชกชนะ 37 ครั้ง แพ้ 4 ครั้ง (เป็นการชนะน็อค 30 ครั้ง) เป็นอดีตแชมป์ WBA และ IBF รุ่นมิดเดิ้ลเวท ซึ่งการเสียแชมป์ทั้ง 2 ครั้ง เป็นการพ่ายแพ้คะแนนแบบสูสีต่อ เกลนาดี้ โกลอฟกิ้น และซาอูล อัลวาเรซ นักชกระดับท๊อปของรุ่นในไฟต์เดิมพันแชมป์
อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดย้อนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านพ้นในชีวิต คงไม่มีใครปฏิเสธความเป็น บุรุษแห่งปาฏิหาริย์ ของเขาเป็นแน่
 
 
Photo: The Ring Magazine
 
 
 
 
@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว boxingboy2021.blogspot.comด้เลยครับ.

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments