<<>> “แสนชัย โจ๊กเกอร์” หรือ แสนชัย ทองไกรแสน และ “ไกโจ้ เค” ณัฐพล นาคสินธุ์ สองโปรโมเตอร์ชาวไทย ผู้ได้สิทธิ์จัดการแข่งขัน พร้อมเผยแพร่มวยไทยเต็มรูปแบบอยู่ในประเทศญี่ปุ่นมาต่อเนื่องยาวนานหลายปี เปิดใจ มวยไทยเริ่มกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง หลังวิกฤตไวรัสโควิดเริ่มคลี่คลาย

 


นายแสนชัย ทองไกรแสน ผู้ได้รับอนุญาตใช้สิทธิ์ สนามมวยเวทีลุมพินี อย่างเป็นทางการ เผยแพร่จัดการแข่งขันเป็นประจำในประเทศญี่ปุ่นเผย
“ตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา ผมต้องหยุดจัดการแข่งขันมานานถึงหนึ่งปีเต็มๆ เพราะญี่ปุ่นปิดประเทศ การจัดมวยต้องจัดแบบระบบปิดไม่ให้มีคนเข้าดู ซึ่งปกติตัวผมเอง จัดมวยไทยอยู่ที่ย่านชินจูกุ ในโตเกียว ปีละ 4-5 ครั้ง เป็นการเผยแพร่จัดมวยไทยล้วนๆ ตามนโยบายและแบรนด์ของเวทีลุมพินีในเมืองไทย”

 


“ไม่เพียงเท่านั้นผมยังจัดอันดับนักมวยญี่ปุ่นของเวทีลุมพินี สาขาญี่ปุ่น มีนักมวยและแชมเปียนในทำเนียบตั้งแต่รุ่นเล็กสุดฟลายเวต จนถึง รุ่นมิดเดิลเวต เป็นมาตรฐานต่อเนื่อง นับตั้งแต่ตัวผมอพยพมาอยู่ที่โตเกียวและมีครอบครัวนานถึง 21 ปี ผมได้รับอนุญาตจัดมวยไทยมานานหลายปี ยอมรับเลยว่า ในช่วงโควิดที่ผ่านมาได้รับผลกระทบมาก เพราะจัดมวยถ้าไม่ให้คนเข้าดูก็ไม่สนุก และค่าตัวนักมวยก็แพงจึงไม่คุ้นต้นทุน”

 

 

“แต่ตอนนี้ สถานการณ์ต่างๆเริ่มคลี่คลายมีแนวโน้มที่ดีขึ้น มีมวยบางรายการ(มวยสากล) เริ่มกลับมาจัดได้ มีการถ่ายทอดสด ระบบปิดบ้าง หรืออนุญาตจำกัดจำนวนผู้เข้าชมบ้าง เริ่มมีสปอนเซอร์กลับมาสนับสนุน หลายๆอย่างเริ่มจะดีขึ้น ตัวผมเองช่วงต้นปีหน้า (พ.ศ.2565) ก็มีแผนจะกลับมา จัดแข่งขันมวยไทยขึ้นอีกครั้ง”

 

 

“แสนชัย โจ๊กเกอร์” โปรโมเตอร์มวยชาวไทย ผู้กว้างขวางในวงการมวยญี่ปุ่น ให้ความเห็นถึง กรณีข่าวทางเมืองไทย ที่เวทีมวยลุมพินี มีนโยบายเปิดกว้าง เตรียมจัดมวย 3 ยก และมวยกรง (MMA) ขึ้นว่า

 


 

“ผมว่า เป็นวิสัยทัศน์ของท่านนายสนามมวยลุมพินีที่เปิดกว้างขึ้น แต่ตัวผมเองก็ยังยืนยัน จะคงอนุรักษ์จัดการแข่งขันมวยไทยล้วนๆที่ญี่ปุ่นอย่างนี้ต่อไป เพราะจากประสบการณ์โดยตรงส่วนตัวของผมที่ได้จัดมวยมานานถึง 17 ปี เอ็มเอ็มเอก็จะมีแฟนคลับของเขา มวยไทยเราก็จะมีแฟนประจำของเรา ถ้ามาจัดผสมในรายการเดียวกัน แฟนคนดูในญี่ปุ่นส่วนมากจะไม่นิยม”

 

 

“ในส่วนของผมก็ยังจะมีแฟนมวยที่อยากดูมวยไทยล้วนๆต่อไป ซึ่งเวลาจัดการแข่งขันมวยไทยก็จะได้รับเกียรติจาก นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว คนปัจจุบัน และ นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ อดีตท่านเอกอัครราชทูต เคยให้เกียรติมาเป็นประธานและร่วมมอบรางวัลคาดเข็มขัดแชมเปียนมวยไทยลุมพินีให้กับนักมวยผู้ชนะเป็นประจำ ในฐานะที่พวกเราได้ร่วมกันเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้มวยไทย” แสนชัย โปรโมเตอร์ชาวไทย วัย 63 ปีกล่าว

 

 

ส่วน “ไกโจ้ เค” นายณัฐพล นาคสินธุ์ ลูกชาย กิ่งทอง ลูกพระบาท อดีตโปรโมเตอร์ชื่อดังเมืองไทย ซึ่งอพยพไปอยู่ญี่ปุ่น ปัจจุบันอายุ 39 ปี ไปเปิดยิมส์สอนมวยไทย และจัดมวยไทย ที่ เวทีมวยโครักกูเอ็น ฮอลล์ ในมหานครโตเกียว ซึ่งถือเป็น “เมกกะ วงการมวยญี่ปุ่น” และถือเป็นโปรโมเตอร์ชาวไทยคนแรกที่ได้รับอนุญาตจัดการแข่งขันเป็นทางการขึ้นที่นั่น เผยถึง สถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมาว่า

 

 
 
 

@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว เว็บboxingboy2021.blogspot.comได้เลยครับ

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments