<<>> หนึ่งในข้อดีของการมีหลากหลายกติกาการต่อสู้ใน วัน แชมเปียนชิพ คือทำให้นักกีฬามีโอกาสที่จะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองอย่างรอบด้าน ซึ่งเราจะเห็นว่ามีนักกีฬาหลายคนที่ลงแข่งขันมากกว่าหนึ่งกติกาและประสบความสำเร็จ อย่างเช่น “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ที่เคยคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวตมาครองได้ทั้งสองเส้น แถมปัจจุบันยังเดินหน้าเอาดีในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) หรือแม้แต่เจ้าตำนานมวยไทยอย่าง “สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” ที่ครองบัลลังก์แชมป์โลก ONE มวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต

 

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนที่ลงแข่งขันมากกว่าหนึ่งกติกา คือทั้งกติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง ได้แก่ เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมีเพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี, รถถัง จิตรเมืองนนท์พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 ด้าน สะเก็ดดาว เพชรพญาไท ก็ลงแข่งในกติกามวยไทยและการต่อสู้แบบผสมผสาน

 

วันนี้เราจะพาไปส่องนักกีฬาไทย 4 คนที่มีแนวโน้มว่าอาจมีการข้ามสายการแข่งขันในอนาคต และอาจส่งให้พวกเขามีโอกาสที่จะครองเข็มขัดได้มากกว่าหนึ่งเส้น มีใครบ้างตามไปดูกัน

 

#1 รถถัง กับ MMA

 

 

“ดิไอรอนแมน” รถถัง จิตรเมืองนนท์” ผู้รั้งอยู่จุดสูงสุดในฐานะแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (56.8 – 61.2 กก.) หลังจากป้องกันตำแหน่งมาแล้ว 3 ครั้ง เขาก็หันไปชิมลางในกติกาคิกบ็อกซิ่ง และกำลังจ่อคิวรอที่จะขอท้าชิงเข็มขัดเส้นนี้ด้วย

 

รถถัง ให้สัมภาษณ์ว่า หากเขาครองบัลลังก์ทั้งกติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่งแล้ว จะหันไปโฟกัสให้กับกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ซึ่งเคยได้ร่ำเรียนวิชานี้มาจากค่ายแฟร์เท็กซ์ แต่ถ้าตราบใดยังไม่ได้เข็มขัดทั้งสองเส้น ก็จะทำให้สำเร็จไปทีละอย่าง เพราะการจับปลาหลายมือย่อมไม่เกิดผลดี

 

#2 น้องโอ๋ กับ คิกบ็อกซิ่ง

 

 

“น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” แชมป์โลกฆ่าไม่ตาย เจ้าของบัลลังก์ ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (61.3 – 65.8 กก.) ซึ่งป้องกันตำแหน่งมาแล้ว 4 ครั้ง ถือเป็นแชมป์โลกชาวไทยที่รั้งเข็มขัดไว้ได้ยาวนานที่สุด โดยเจ้าตัวสร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ให้กับแฟน ๆ หลังจบศึกป้องกันตำแหน่งไฟต์ล่าสุดเมื่อปลายปี 2563 ด้วยการส่งสารท้ารบถึงคิกบ็อกเซอร์ตัวพ่ออย่าง “จอร์จิโอ เปโตรเซียน”

 

แม้จะมีข้อจำกัดในเรื่องน้ำหนักที่น้อยกว่า รวมถึงความชำนาญในการชกคิกบ็อกซิ่ง แต่ น้องโอ๋ ก็ไม่หวั่นและยืนยันว่าอยากจะเจอกับคนที่เก่งที่สุด โดยไม่สนว่าจะมีเข็มขัดแชมป์โลกเป็นเดิมพันหรือไม่

 

ส่วนในรุ่นเดียวกันที่มี “กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี” ครองบัลลังก์แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง น้องโอ๋ ต้องเจอทางตัน เมื่ออดีตต้นสังกัดอย่างเพชรยินดีฯ ยืนยันว่าทั้งคู่จะไม่ได้ชิงเข็มขัดกันเองแน่นอน

 

#3 ซุปเปอร์บอน กับ มวยไทย

 

 

“ซุปเปอร์บอน” นักชกผู้รั้งอันดับสองของแรงกิง ONE คิกบ็อกซิ่งและมวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (65.9 – 70.3 กก.) แม้จะได้โชว์ผลงานคิกบ็อกซิ่งย้ำแค้นคู่ปรับเก่าอย่าง “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” ไปเพียงแค่ไฟต์เดียวบนเวทีแห่งนี้ แต่แฟนหมัดมวยทั่วโลกต่างรู้ฤทธิ์เดชความน่ากลัวของเจ้าตัวเป็นอย่างดี

 

หลังจากคว้าชัยชนะไฟต์แรก ซุปเปอร์บอน ออกตัวชัดเจนว่าพร้อมชนทั้งสองกติกา ไม่ว่าจะเจอกับตัวพ่อคิกบ็อกซิ่งอย่าง จอร์จิโอ เปโตรเซียน หรือท้าทายบัลลังก์มวยไทยที่ “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” นั่งครองอยู่ก็ตาม

 

#4 วันเดอร์เกิร์ล กับ MMA

 

 

“วันเดอร์เกิร์ล แฟร์เท็กซ์” นักชกหญิงดาวรุ่งของบ้านเราที่เก็บแต้มในกติกามวยไทยไปแล้ว 2-1 ไฟต์ แต่หลายคนคงพอรู้มาว่าเธอได้ฝึกฝนการต่อสู้แบบผสมผสาน และลงแข่งขันในระดับสมัครเล่นคว้าเหรียญระดับประเทศมาบ้างแล้ว ภายใต้การดูแลของ “ดีเจ แจ็กสัน” โค้ชคนเดียวกันกับ แสตมป์ และ “ยอดไก่แก้ว แฟร์เท็กซ์” สองเพื่อนร่วมค่ายที่ผันตัวมาเอาดีในกีฬานี้เหมือนกัน

 

เชื่อว่าแฟน ๆ คงใจจดใจจ่ออยากเห็น วันเดอร์เกิร์ล โชว์ฝีมือในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานเต็มที เอาเป็นว่าถ้าเธอพร้อมก้าวขึ้นสังเวียนอาชีพในกีฬานี้เมื่อไหร่ แฟน ๆ ก็เตรียมเสียงไว้เชียร์ดัง ๆ ได้เลย

 

 

@ news image credit :: ONE Championship

 

 
@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว เว็บ boxingboy2021.blogspot.com ได้เลยครับ..