-@@- ขึ้นชื่อว่านักมวย ภาพลักษณ์ที่ติดตัวก็คือ ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ล่ำ แข็งแกร่ง ดุดัน

ยิ่งถ้าเป็น “มวยไทย” ได้แล้ว ยิ่งต้องเพิ่มความห้าว ดุดัน เพิ่มเข้าไปอีกหลายเท่า

แต่ถ้าถามว่าอาชีพ “นักมวย” กลัวเมียเหมือนกับผู้ชายธรรมดาด้วยหรือเปล่า

คงจะไม่ละมั้ง

 

แหม ก็พวกนักมวยหุ่นล่ำๆ เตะกระสอบทีเสียงดังโครมๆ พอขึ้นเวทีก็เตะต่อยกันเสียงดังปั่กๆ สับศอกที เลือดพุ่งกันเห็นๆ เสยเข่าลอยเข้าให้เต็มยอดอก
แค่ผู้หญิงที่เรียกว่าเมีย จะเอาอะไรมาหือ

ทำตาขวางเข้าใส่ เดี๋ยวเถอะๆ…

 

สมัยก่อนโน้น ลูกผู้หญิงคนไหนจับพลัดจับผลูได้สามีเป็นนักมวยขึ้นมาละก็ วงศาคณาญาติมักจะพูดเตือนสติเสมอว่า คิดดีแล้วหรือเอ็ง ถ้ามีเรื่องทะเลาะวิวาท ชกต่อยกันขึ้นมา ซี่โครงมีหวังเหน็บข้างฝาอย่างเดียวนะเว้ย

แต่โทษที นักมวยบางคนก็ขี่เสือให้วัวกลัวไปอย่างนั้นแหละ

 

10808711_508326202643735_2028661395_n

 

บางคนอยู่บนเวทีเป็น “เสือ” แต่ลงจากเวที กลับไปอยู่บ้านกลายเป็น “แมว” เซื่องๆ ก็มี

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยายในวงการมวยเมื่อ 3-40 ปีก่อน และเป็นการยืนยันว่า นักมวย ก็ “เกียมัว” กับเขาเป็นเหมือนกัน

 

เรื่องนี้เป็นเรื่องของสามี-ภรรยาคู่หนึ่ง ที่ใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่ในวงการมวยมาตั้งแต่เด็ก

ฝ่ายสามี คือ วรวิทย์ ประเสริฐศักดิ์ นักมวยสากลมีระดับ เคยเป็นแชมป์รุ่นฟลายเวทของลุมพินี และเคยเข้าทำผลงานเข้าอันดับโลกมาแล้ว โด่งดังพอสมควรในช่วงระหว่างปี 2506-2510

วรวิทย์ เป็นนักชกร่างเล็กตัวกะเปี๊ยก แต่ฝีมือการชกดีเยี่ยมทั้งมวยสากลและมวยไทย ไม่เพียงแต่มวย ยังเก่งกาจทั้งศิลปะการต่อสู้ประเภทอื่นทั้ง กระบี่กระบอง ฟันดาบ ยูโด และ การเล่นโขนด้วย แถมหน้าตาหล่อเหลาพอตัวอีกต่างหาก

 

ส่วนภรรยาคือ วรรณา ลูกสาวของครูกิตติ อัชชวาณิชย์ ครูมวยชื่อดังที่เป็นลูกพี่ของ “จำเริญ ทรงกิตติรัตน์” นักมวยไทยคนแรกที่มีโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกนั่นไง

 

 

 

วรวิทย์ รัก “คุณหนู” วรรณา มาแต่เด็กๆ และทั้งคู่สนใจศิลปะการต่อสู้เหมือนๆ กันเสียด้วย แต่ก็แปลก ตอนที่วรวิทย์ ขึ้นชกครั้งไหน วรรณาไม่เคยคิดที่จะมาดู หรือมายืนเต้นเชียร์เหยงๆ เหมือนคนอื่นๆ เขาเลย

อ้อ ฝีไม้ลายมือมวยไทยของ วรรณา ก็ไม่ธรรมดา เพราะตอนรักกันใหม่ๆ “คุณหนู” เคยซ้อมยูโดผสมมวยไทย รั้งคอด้วยเสื้อยูโด แถมตีเข่าซ้ำ เล่นเอา วรวิทย์ เลือดทะลัก สลบเหมือดไปหนหนึ่ง

จึงไม่แปลก ที่เมื่อแต่งงานแต่งการอยู่กินกันมา วรวิทย์จึงปฏิบัติตนอยู่ในขอบเขตสามีที่ดีชนิดไม่ (กล้า) ขาดตกบกพร่อง

 

เอะอะไรไม่ได้ “คุณหนู” จะเตะสั่งญาติเสียทุกทีไป

แต่มีครั้งหนึ่ง วรวิทย์ ขึ้นชกกับรองแชมป์โลก ริค มากราโม ผลปรากฎว่าแพ้น็อกลงมา เขาเสียอกเสียใจมากเพราะตั้งใจชกเต็มที่ แถมที่มือเกิดกระดูกร้าว ชกหมัดขวาไม่ได้เลย พอกลับไปบ้านเลยอาละวาด ชกรูปตัวเองจนกรอบแตกกระจาย ทำท่าจะขว้างสิ่งของป่นปี้หมด

วรรณา ปราดเข้ามาห้าม วรวิทย์ กำลังโมโห จึงเตะขวาใส่ตูมใหญ่ เล่นเอาภรรยาเกิดอาการประหลาดใจเป็นล้นพ้น พูดออกไปด้วยเสียงอันดังว่า

 

“อ้อ ชกมวยแพ้แล้วมาหาเรื่องชาวบ้านยังงี้เรอะ เอาซิ เอาอีกสักที ถ้าไม่พอใจ”

วรวิทย์ กำลังคลั่ง กระโดดเตะเมียซ้ำเข้าให้อีก

แต่คราวนี้วิญญานนักยูโดเก่าเข้าสิง วรรณา กลับพุ่งเข้ารับจับขาได้ แล้วยกทุ่มโครม ร่างของรองแชมป์โลกลอยละลิ่วออกประตูไปนอนหงายอยู่กลางลานซีเมนต์
พอรู้สึกตัวลุกขึ้นได้เท่านั้น จิตสำนึกกลับคืน นักมวย “เกียมัว” อย่างวรวิทย์ เลยโกยอ้าวออกจากบ้านแล้วไปอาศัยเพื่อนนอน 2 คืน ถึงค่อยย่องกลับมากราบสมาลาโทษคุณเธอได้

แต่อย่างว่า เมื่อมีครั้งแรก ย่อมมีครั้งต่อไป

 

คราวนี้ วรวิทย์ดันหาเรื่องเองเมื่อแอบไปมีเมียน้อย ข่าวทะลุไปเข้าหูเมีย วรรณา ไม่ฟังอีร้าค่าอีรมตามไปเจอสามีตัวดี แล้วโชว์ลีลาเตะสยบผัวเข้าให้ โดยเตะจับเข้าที่ก้านคอต่อเต็มๆ จนเจ้าตัวแจวอ้าวแทบไม่ทัน

มีพฤติกรรมของยอดหญิง “วรรณา” ที่ควรบันทึกเอาไว้เพิ่มเติมในเรื่องนี้ด้วย

 

มีอยู่ครั้งหนึ่ง วรวิทย์ มีโปรแกรมพาคณะโขน กระบี่กระบอง ไปแสดงศิลปะที่ฮ่องกง วรรณา ขอติดตามไปด้วย ปรากฎว่าระหว่างโชว์ตัว มีดาราดาวร้ายขอทดสอบด้วย ศรีภรรยาของวรวิทย์ อาสารับมือเอง และโชว์แม่ไม้มวยไทยเล่นงานดาวร้ายฮ่องกงซี่โครงรวนไปทั้งแถบ ดาวร้ายกลายเป็นดาวร่วงให้เห็นกันจะจะตา เอากะแม่สิ

 

ระยะหลังไม่ต้องสงสัยเลยว่า วรวิทย์ เป็นนักมวยที่เกรงใจเมีย (หรือกลัวเมียนั่นแหละอย่างเดียวกัน ฮ่า) จนเป็นที่รู้กันไปทั่ว ประกอบกับอดีต “คุณหนู” น้ำหนักร่างกายพุ่งพรวดปาเข้าไปถึง 60 กิโล พอฟัดพอเหวี่ยงกับสามี จับวรวิทย์โยนตัวปลิวได้อย่างสบาย

 

นิสัยส่วนตัวนั้น วรรณา เป็นคนพูดน้อย แต่เตะมาก เถียงกันทีไร เธอหวดก้านคอเขาก่อนทุกที เรียกว่าเวลาเถียงกันแล้วเสียงเมียเครียดทีไร วรวิทย์ มักยกการ์ดสูง ถอยห่างทันที แฮ่

 

แต่ขนาดเป็นนักมวยเกียมัวอย่างนี้ แต่เชื่อมั้ยว่า พ่อวรวิทย์ ยังดอดไปมีเมียน้อย รวมเบ็ดเสร็จ 3 คน เพิ่มอีหนู-ไอ้หนูมาอีก 4 รวมมีเลือดเนื้อเชื้อไขทั้งเมียหลวง-เมียน้อย 9 รายด้วยกัน

เข้าสูตร ผู้ชายที่กลัวเมีย (ส่วนมาก) มักจะเจ้าชู้ เป๊ะเลย

 

มีอยู่ครั้งหนึ่ง วรรณา สืบทราบมาว่า วรวิทย์ แอบไปมีอีหนูใหม่อีกคน จึงซื้อน้ำกรดใส่ขวดมาชูให้ดู และคาดโทษไว้เปรยๆ
“ ระวังตัวให้ดีเหอะ รู้จักไอ้นี่ไหม”

แต่พ่อตัวดีก็ทำหูทวนลม เสียอย่างนั้นแหละ เอากับเขาสิ

 

MARS129_001

 

แต่คืนนั้นเอง พอวรวิทย์นอนหลับ เขาก็ต้องตกใจตื่นกลางดึก เพราะรู้สึกร้อนวูบในผ้าขาวม้า ลุกขึ้นต๊กกะใจ เห็นวรรณานั่งยิ้มเหี้ยมๆ มือถือขวดน้ำกรดอยู่ข้างเตียง เธอบอกเสียงเครียดว่า

 

“นี่แนะเจ้าชู้นัก อย่ามีมันเลยไอ้นั่น…”

ด้วยความเสียดายของรักของหวง วรวิทย์ เผ่นแน่บไปโรงพยาบาลแทบไม่ทัน กางเกงนุ่งโดยไม่ได้รูดซิบ แจ้นไปโชว์ของสำคัญให้หมอดูเลย เพราะมันร้อนรุ่มไปหมดทั้งพวง

“หมอครับ น้ำกรดครับ เมียผมเอาน้ำกรดราดเข้าให้แล้ว”

หมอได้ฟังก็ตกใจ แต่พอดูอาการแล้ว ก็หัวเราะก๊ากขึ้นมาแทน

 

ทำไมเป็นอย่างนั้น

“หัวเราะทำไมหมอ? ของผมจะบรรลัยแล้ว ช่วยผมหน่อยครับ” วรวิทย์ ร้องขึ้น

หมอสั่นหน้า แล้วพูดเสียงกลั้วหัวเราะ

“ช่วยอะไร เมียลื้อเอาแอลกอฮอลราดล้อเล่นเท่านั้นเอง อย่าตกใจไปเลย รักดอกจึงหยอกเล่น ฮ่า”

กรณีตัวอย่างนี้ คงเลือกตัดสินเองว่า

 

วรวิทย์ คือ นักมวย “เกียมัว”

หรือว่า วรรณา คือ เมียที่เกิดมาเพื่อกำราบนักมวยกันแน่

 

sp3-e1417228810475

new-logox2-e1416876872708-2-e1417234758308

 

@ credit news – image : www.sportclassic.in.th

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments