<<>> หากพูดถึงนักมวยปล้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลกของรายการ “ศึกมวยปล้ำ WWE” (World Wrestling Entertainment) ย่อมมีชื่อ BOBBY LASHLEY (บ๊อบบี้ แลชลีย์) ติดโผในใจแฟนๆ อย่างแน่นอน เบื้องลึกเบื้องหลังชีวิตของ BOBBY LASHLEY (บ๊อบบี้ แลชลีย์) เป็นนักมวยปล้ำเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน คนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่เป็นแชมป์โลก WWE
 
 
 
 
มีผลงานการันตีความสามารถมาอย่างมากมาย ในสมาคม WWE คือ WWE Championship (แชมป์คนปัจจุบัน) , ECW World Championship (2 สมัย) , WWE Intercontinental Championship (2 สมัย) และ WWE United States Championship (2 สมัย)
โดยแฟนๆ คอมวยปล้ำได้มอบฉายา “The All Mighty หรือ สิงห์คะนองนา” ให้กับเขา โดยมีท่าไม้ตายประจำตัว คือ ท่า Spear หรือการใช้หัวไหล่พุ่งเข้าอัดกับคู่ต่อสู้อย่างแรง ซึ่งอาจทำให้คู่ต่อสู้ตัวขาดครึ่งท่อนได้ และท่า Hurt Lock หรือการใช้หัวไหล่อันทรงพลังล๊อคแขนคู่ต่อสู้ไม่ให้ขยับไปไหน จนคู่ต่อสู้เจ็บปวดทรมานจนต้องยอมแพ้ไป
 
 
 
 
ซึ่ง BOBBY LASHLEY (บ๊อบบี้ แลชลีย์) มีสายเลือดนักสู้อย่างเต็มเปี่ยม! เขาฉายแววแกร่งมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมศึกษา โดยเลือกกีฬามวยปล้ำเป็นกิจกรรมยามว่างช่วงปิดเทอม และได้เปิดตัวเป็นนักมวยปล้ำอย่างเป็นทางการบนเวทีมวยปล้ำ WWE ครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2005 ในรายการ SmackDown อีกทั้งเส้นทางชีวิตของเขายังเคยเป็นนักมวยปล้ำฝีมือดีแห่งกองทัพสหรัฐฯ
 
 
 
 
 
โดยได้รับเหรียญทองและเหรียญเงินในการแข่งขัน International Military Sports Council อีกด้วย ดังนั้นเมื่อ BOBBY LASHLEY (บ๊อบบี้ แลชลีย์) อุทิศชีวิตทั้งชีวิตให้กับกีฬามวยปล้ำ เขาจึงต้องแบกรับความกดดันและความคาดหวังไม่น้อย แต่เขาก็เกือบจบการเป็นนักกีฬามวยปล้ำอาชีพไป เนื่องจากการตรวจเช็คร่างกายประจำปีครั้งหนึ่ง แพทย์ได้ประกาศว่า BOBBY LASHLEY (บ๊อบบี้ แลชลีย์) ไม่สามารถแข่งมวยปล้ำได้อีก
 
 
เนื่องจากตรวจพบว่าเขามีเอนไซม์ในตับสูงขึ้นมาก จึงไม่สามารถขึ้นเวทีได้ หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์เขาก็ได้เข้าตรวจเช็คร่างกายอีกครั้ง และผลเป็นที่พอใจของแพทย์ เขาจึงได้คืนสู่สังเวียนอีกครั้ง 16 ปีที่รอคอย คือการฝึกซ้อมฟิตร่างกาย ก่อนคว้าเข็มขัดแชมป์โลก “WWE CHAMPIONSHIP” ในวันที่ 1 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยเอาชนะ “The Miz เดอะมิซ” ด้วยท่า Hurt Lock ให้น็อคกองกลางเวที
 
 
 
 
ซึ่งแฟนมวยปล้ำชาวไทย ติดตามความมันส์แบบไร้ขีดจำกัดกับกีฬามวยปล้ำ ที่มีทั้งความสนุกทุกคู่ เลือดสาดทุกแมตช์ เกรี้ยวกราดทุกช็อต เหงื่อไหลย้อยทุกซีน ชั้นเชิงขั้นเทพแบบโหด-เลว-ดี ไม่มีสิ้นสุด รับชมความสนุกเร้าใจที่เรียกความสะใจจากแฟนมวยปล้ำทั่วโลกชมกันแบบเต็มอิ่มได้ ทุกเช้าวันอังคาร จะได้ชมรายการ RAW เวลา 07.00 – 10.00 น. และ ทุกเช้าวันเสาร์ ชมรายการ SMACKDOWN เวลา 07.00 – 09.00 น. ที่ช่อง 3BB SPROTS ONE หมายเลข 401 ผ่านบริการ 3BB GIGATV สอบถามเพิ่มเติม โทร 1530
 

 
 
@ News  Photo Credit :: www.khaosod.co.th/ Sodsroi Sawsangvean
 
 
@ *คลิก* ติดตามต่อกับพันธมิตรข่าว เว็บboxingboy2021.blogspot.comได้เลย

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments