เริ่มจากรุ่นแบนตั้มเวท 54 กก.หญิงรอบ 16 คนสุดท้าย นภเกตน์ ศรีสวัสดิ์ ขึ้นเวทีในมุมน้ำเงิน พบกับ เคลาเดีย โตโตว่า จากสาธารณรัฐเช็ก ยกแรกนักชกสาวไทยแม้จะมีช่วงชกที่เสียเปรียบ ทว่าอาศัยจังหวะฝีมือดักชกได้อย่างแม่นยำ จึงมีคะแนนนำไปก่อนในยกแรก
ทว่าในยกที่ 2 กำปั้นสาวเชก แก้เกมด้วยการเดินเข้าหาและขยันออกหมัดมากขึ้น จึงได้คะแนนในยกนี้คืนไปบ้าง พร้อมกับทำให้ทั้งคู่ต้องไปชิงดำกันในยกที่ 3
ยกสุดท้าย ทั้งคู่ออกมาแลกหมัดกันอย่างดุเดือดแต่ นภเกตน์ เป็นฝ่ายออกหมัดเข้าเป้าได้อย่างจะแจ้งกว่า ก่อนจะเอาชนะคะแนนไปอย่างฉิวเฉียด 3-2 เสียง โดยกรรมการจากคาซัคสถานให้ นภเกตน์ ชนะ 30-27 คะแนน ส่วนกรรมการจากมาเลเซียและยูเครนให้นักชกสาวไทยเป็นฝ่ายชนะ 29-28 คะแนน ขณะที่กรรมการจากโครเอเชียให้ เคลาเดีย โตโตว่า ชนะ 29-28 คะแนน และกรรมการจากสิงคโปร์ให้สาวเชกชนะ 30-27 คะแนน
จากชัยชนะในไฟต์นี้ ได้ทำให้ นภเกตน์ ศรีสวัสดิ์ ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปพบกับหนึ่งในตัวเต็งอย่าง นิกิน่า อุคตาโมว่า จากอุซเบกิสถาน เจ้าของแชมป์เยาวชนเอเชียเมื่อปี 2019 ซึ่งในตอนนั้นเธอได้แชมป์ในรุ่น 52 กก.
ต่อมาในรุ่นฟลายเวท 52 กก.ชายรอบ 16 คนสุดท้าย ธนกร อ่อนแย้ม ที่ได้บายในรอบที่แล้ว ขึ้นเวทีในมุมแดงพบกับ อาลี ซามานอฟ จากอาเซอร์ไบจัน ยกแรกนักชกไทยดักจิ้มขวาได้ดีกว่า จึงทำให้มีคะแนนนำไปก่อน ทว่าอีก 2 ยกต่อมา กำปั้นจากอาเซอร์ไบจันอาศัยจังหวะฝีมือที่เหนือกว่า ชิงออกหมัดเข้าเป้าได้หลายครั้งโดยเฉพาะหมัดซ้ายตรง จึงทำให้ ธนกร แย้มอ่อน พ่ายไปอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 1-4 เสียง ตกรอบอย่างน่าเสียดาย ส่วน อาลี ซามานอฟ ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปพบกับ เยฟเกนี่ โซรอฟ จากรัสเซียต่อไป
ปิดท้ายที่รุ่นเวลเตอร์เวท 69 กก.ชายรอบ 32 คนสุดท้าย รัฐพล กาดำดวน ที่ได้บายในรอบที่แล้ว ขึ้นเวทีในมุมแดง ดวลกำปั้นกับ จานดอส อัสคาร์ จากมองโกเลีย เปิดฉากขึ้นมา ทั้งสองฝ่ายที่เป็นมวยซ้ายเหมือนกันทั้งคู่ ปักหลักแลกหมัดกันอย่างสนุก ทว่านักชกจากมองโกเลีย เป็นฝ่ายยิงหมัดเข้าเป้ามากกว่า จึงทำให้ รัฐพล แพ้ไป 1-4 เสียง ตกรอบไปอีก 1 คน ส่วน จานดอส อัสคาร์ เข้ารอบ 16 คนสุดท้ายไปพบกับ ฟาฮัด โมราดี้ อาทาชกาห์ จากอิหร่าน
สำหรับทีมกำปั้นเยาวชนไทย มีโปรแกรมขึ้นเวทีอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ.2564
